เสริมความแข็งแกร่ง! AIS ประกาศวิสัยทัศน์ นำความสำเร็จสู่ทุกอุตสาหกรรมในยุคเศรษฐกิจ Digital
สวัสดีค่ะ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ สีน้ำได้มีโอกาสไปร่วมงาน
AIS Digital Intelligent National 2019
งานสุดยิ่งใหญ่ประจำปี ที่ได้รวบรวมความน่าสนใจไว้เพียบ!
ทั้งข้อมูลเทรนด์ Digital ระดับโลก จากเหล่ากูรูผู้มีชื่อเสียง
และงานจัดแสดงนวัตกรรม และเทคโนโลยีดิจิทัลหลากหลายรูปแบบ
ที่ช่วยเปิดมุมมองความรู้ และประสบการณ์ใหม่ๆ
ในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีแห่งอนาคต
เพื่อให้ภาคธุรกิจ ภาคเอกชน และคนไทยทุกคน
พร้อมรับมือกับเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วันนี้สีน้ำจึงได้นำภาพบรรยากาศมาฝากทุกคนด้วยค่ะ
งานแบ่งออกเป็น 2 โซนนะคะ
ด้านในจะเป็นเวทีสัมมนา
ส่วนด้านนอกจะเป็นโซนจัดแสดงเทคโนโลยีค่ะ
ส่วนด้านนอกจะเป็นโซนจัดแสดงเทคโนโลยีค่ะ
ซึ่งมีผู้คนให้ความสนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว
เริ่มแรกก็เปิดงานด้วย การประกาศวิสัยทัศน์ AIS ในปี 2019 จากเหล่าผู้บริหาร
และยังมีเหล่ากูรูชื่อดังทั้งไทยและต่างประเทศ
มาบรรยายให้ความรู้กันตลอดทั้งวันด้วยนะคะ
นอกจากงานสัมมนาแล้ว ยังมี
AIS Digital Intelligent Nation Showcase
ที่นำเสนอเทคโนโลยีสุดล้ำ เช่น Robotic, รถยนต์ไร้คนขับ, อุปกรณ์ IoT อัจฉริยะ อีกด้วย
Zone ด้านนอก ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน
เพราะมีศิลปิน ดารา พรีเซ็นเตอร์ของ AIS มาร่วมงานด้วย
และยังมีการจัดกิจกรรมให้แฟนคลับได้ร่วมสนุกกันด้วยค่ะ
เพราะมีศิลปิน ดารา พรีเซ็นเตอร์ของ AIS มาร่วมงานด้วย
และยังมีการจัดกิจกรรมให้แฟนคลับได้ร่วมสนุกกันด้วยค่ะ
จัดแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลหลากหลายรูปแบบ
จัดเต็มยิ่งใหญ่ถึง 4 โซน!! ดังนี้
1. NETWORK AND INNOVATION
A. NEXT G
·
NEXT
G available on iOS & Andriod
จัดแสดงศักยภาพเครือข่าย AIS NEXT G
เร็วสุด แรงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ที่ควบรวมสุดยอดเทคโนโลยีมือถือ AIS 4G ADVANCED
และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง AIS SUPER WiFi
ทำให้เกิดประสิทธิภาพการใช้งาน Speed ที่เร็วขึ้นบนความเร็วสูงสุด 1 Gbps
ซึ่งในปัจจุบันสามารถใช้งานได้ทั้งบนระบบปฎิบัติการ
IOS และ Android
·
WiFi
6 (WiFi 802.11ax) Wi-Fi 6 คือ
Wi-Fi มาตรฐานใหม่ที่กำหนดโดย Institute of
Electrical and Electronics Engineers
(IEEE)
เป็น Wi-Fi ที่มีประสิทธิภาพดีกว่า เสถียรกว่า และประหยัดพลังงานกว่า
มีประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ IoT
ต่างๆได้
โดย AIS ได้นำระบบ Wi-Fi 6 มาให้สัมผัสเป็นรายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
จุดเด่นของ WiFi 6
1.
เพิ่มความเร็วในการใช้งานสูงสุดจาก 650 Mbps (Wi-Fi 5)
ไปเป็น 4.8 Gbps
(Wi-Fi 6)
2.
ช่วยบริหารจัดการความถี่ได้ดีขึ้น ทั้งย่าน 2.4 GHz และ 5 GHz
สำหรับอุปกรณ์ปัจจุบัน และ IoT
3.
เพิ่มความเสถียรในพื้นที่ที่มีการใช้งานหนาแน่น เช่น ในห้างสรรพสินค้า
สนามกีฬา
หรือ คอนเสิร์ตฮอลล์
4.
เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน
ทำให้ประหยัดแบตเตอรี่ของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ
ทั้งนี้ AIS จะเปิดให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์ Wi-Fi 6 ที่ AIS DC ภายในปี 2019
โดยอุปกรณ์ทั่วไปในท้องตลาดจะเริ่มรองรับมาตรฐาน
Wi-Fi 6 ในปี 2020
B. 5G x Nokia
พบกับโชว์เคส 5G สุดเจ๋ง ที่เอไอเอสผนึกกำลังกับพาร์ทเนอร์ระดับโลก Nokia
ทดสอบศักยภาพเทคโนโลยี
5G อย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้ภาคธุรกิจและทุกอุตสาหกรรมเห็นภาพของประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจาก 5G
และเกิดแรงบันดาลใจในการผลิตนวัตกรรมใหม่ๆ
ให้สอดรับกับเทคโนโลยีอนาคตที่จะมาถึงในอนาคตอันใกล้
·
5G
Ultra Low Latency – Cooperative Cloud Robots
การสาธิตความหน่วงของเครือข่าย 5G
โดยการใช้หุ่นยนต์สองตัวในการหาจุดสมดุล ที่ทำให้ลูกบอลอยู่กึ่งกลาง
การสาธิตแสดงเวลาที่หุ่นยนต์ใช้ในการหาจุดสมดุลผ่านการสื่อสาร
ระหว่างกันโดยใช้เครือข่าย
4G เปรียบเทียบกับเครือข่าย 5G
·
5G
Collaborative Car Factory
การสาธิตการตอบสนองที่แตกต่างของระดับความหน่วงหลายระดับต่างๆ
เนื่องจาก 5G มีค่าความหน่วงที่ต่ำกว่า
จึงตอบสนองได้รวดเร็วกว่า
โดยการสาธิตผ่าน VR Car Factory demo
ที่ผู้เล่นสามารถลองประกอบเครื่องยนต์ของรถยนต์
เสมือนอยู่ในโรงงานจริงๆ
แบบ Real Time
·
5G AR Digital Rubik's Cube
แสดงการตอบสนองของเกมส์รูบิค
ผ่านเครือข่าย5G
เพื่อแสดงการตอบสนองที่เร็วกว่า โดยผู้เล่นสามารถหมุนโมเดล Rubik จำลอง
ข้อมูลจะถูกส่งผ่านและแสดงบนโมเดล Rubik บนจอแบบ Real
Time
·
5G VR Football Penalty Kick Game
การสาธิตความหน่วงของเครือข่าย 5G โดยเกมส์การเตะลูกโทษฟุตบอล
ระหว่างผู้เล่นที่เป็นนักเตะกับผู้รักษาประตูเสมือนจริงในเกมส์
เทียบระหว่างการเตะบนเครือข่าย 4G และ5G
เพื่อแสดงการตอบสนองที่แตกต่าง เนื่องจาก 5G มีค่า Latency
ที่ต่ำกว่า จึงตอบสนองได้รวดเร็วกว่า
ทำให้โอกาสในการทำประตูบนเครือข่าย 5G เป็นไปได้มากกว่า
C. 5G x Chula
จัดแสดงโชว์เคสนวัตกรรม 5G ที่เกิดจากการร่วมมือในการศึกษา
วิจัย
เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี5G (MOU) ระหว่างคณะวิศวกรรมศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเอไอเอส ภายใต้การสนับสนุนของ กสทช.
เพื่อสร้างองค์ความรู้ทางวิชาการ
อันจะนำไปสู่การพัฒนา
นวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีระบบ 5G ของประเทศ
·
5G
Garage Innovation Lab
ศูนย์การเรียนรู้เรื่อง 5G แห่งแรกในไทย ด้วยความร่วมมือระหว่างคณาจารย์,
นิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯและผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทเอไอเอส
เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ที่เกี่ยวกับ 5G ให้เป็นประโยชน์แก่การศึกษา
และต่อยอดการพัฒนานวัตกรรมจากเทคโนโลยี
5G
·
Video
Analytics for Smart school
เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าที่พัฒนาโดยทีมงานเอไอเอส
เพื่อเป็นก้าวแรกของการนำไปสู่ Smart
School โดยนำมาทดสอบใช้
ที่โรงเรียนสาธิตแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เพื่อช่วยบันทึกการเข้าออกโรงเรียนของนักเรียนให้แม่นยำมากขึ้น
และตรวจสอบการเข้า-ออก ของบุคคลในบริเวณโรงเรียน
เป็นการยกระดับการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ไปอีกขั้นหนึ่ง
·
Robot
Mini Cargo
หุ่นยนต์อัจฉริยะที่ทำงานผ่านระบบ 5G สามารถมาช่วยให้การเดินเอกสาร,
ส่งของต่างๆในอาคาร เป็นไปได้อย่างง่ายดาย
ตามตำแหน่งเป้าหมายที่ระบุ
สามารถหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้โดยอัตโนมัติ
และการเคลื่อนที่กลับมาตำแหน่งชาร์จพลังงานโดยอัตโนมัติ
โดยจะมีการทดลองใช้หุ่นยนต์ Mini Cargo
ในบริเวณจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
·
Smart
Stadium
สนามกีฬาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่จะใช้เทคโนโลยี 5G
และอุปกรณ์ Internet of Things เพื่อนำมาใช้ในการบริหารจัดการพลังงาน
ภายในสนาม เพื่อให้เกิดความคุ้มค่า มีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานสูงสุด
·
Smart
Pole
เสาอัจฉริยะที่รวบรวมอุปกรณ์ IoT ต่างๆ ไว้ภายในต้นเดียว
ไม่ว่าจะเป็น IoT Environment Sensor
ที่ใช้วัดอุณหภูมิและคุณภาพอากาศในพื้นที่โดยรอบ
พร้อมทั้งแสดงผลในทันทีด้วย Digital display
โดยใช้พลังงานสะอาดจากแผง
Solar cell ที่ติดอยู่ด้านบนของเสา
นอกจากนี้ยังมี ระบบ Video
CCTV เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ทางเท้า
และเป็นที่ปล่อยสัญญาณ WiFi
ให้ผู้ใช้งานโดยรอบได้อีกด้วย
·
หุ่นยนต์กายภาพอัจฉริยะ
หุ่นยนต์อัจฉริยะช่วยทำกายภาพภาพฟื้นฟูบริเวณกล้ามเนื้อในจุดที่อ่อนแรง
ให้กับผู้ป่วยอัมพฤกษ์ และอัมพาต โดยมีกลไกการเคลื่อนที่แบบ
4 องศาอิสระ
ทำให้ช่วงการทำงาน ของข้อต่อมีการเคลื่อนที่สอดคล้องคล้ายกับแขนมนุษย์
จึงช่วยให้ผู้ป่วยสามารถฝึกการใช้งานแขนซ้ำๆ ได้เป็นจำนวนครั้งที่มากกว่า
มีเกมที่ช่วยดึงดูดการออกกำลัง
ซึ่งทักษะการใช้งานจะแปรผัน
ตามจำนวนครั้งที่ฝึก พร้อมจัดเก็บข้อมูลไว้บนระบบ Cloud
ทำให้แพทย์สามารถดึงข้อมูล การทำกายภาพของคนไข้
มาวินิจฉัยได้แบบ Real
Time เพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ซึ่งในอนาคตจะเข้ามาทดแทนปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์
D. 5G x PSU
5G Autonomous Car Lab
รถยนต์ไร้คนขับ (Autonomous Car) ที่ได้มีการศึกษาและทดลองอย่างจริงจัง
ร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์และเอไอเอส
โดยรถยนต์สามารถเดินทางจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งได้อย่างแม่นยำ
และปลอดภัยผ่านการใช้งานบนระบบโครงข่ายของเอไอเอส
ให้รถยนต์สามารถเคลื่อนที่, สื่อสารกับ Smart pole,
หยุดเมื่อเจอสิ่งกีดขวาง และพาตัวเองไปชาร์จพลังงานไฟฟ้าได้ด้วยตัวเอง
โดยคาดว่าการทดลองและวิจัยดังกล่าว
จะสามารถพัฒนานำไปประยุกต์ใช้ในสถานะการณ์ต่างๆ
ที่เป็นประโยชน์อย่างมากกับประเทศในอนาคต
E. Robot
ตื่นตาไปกับทีม AIS ROBOT
หุ่นยนต์สมองกล ที่จะมาโชว์ขีดความสามารถ
การทำงานเป็นผู้ช่วยมนุษย์ได้อย่างน่าทึ่ง
·
Lisa
หุ่นยนต์อัจฉริยะที่สามารถนำทางไปยังพิกัดได้อย่างแม่นยำ
สามารถจดจำใบหน้าได้ ซึ่งในงานนี้ AIS ได้พัฒนาขีดความสามารถ
ให้หุ่นยนต์
Lisa ทำหน้าที่เสมือนไกด์พาผู้เข้าชมงานเดินเยี่ยมชมบูธ
โดยผู้เข้าชมงานสามารถกดเลือกบูธที่สนใจ จาก Directory
ที่จัดแสดงบนหน้าจอหุ่นยนต์ได้
Huco หุ่นยนต์แขนกลอัจฉริยะ
ที่มาพร้อมความสามารถในการตักป๊อปคอร์นอย่างคล่องแคล่ว
หลังได้รับคำสั่งการหุ่นยนต์ด้วยกัน
(Alex)
โดยหุ่นยนต์ Huco เป็นหุ่นยนต์ Cobot (collaborative Robot)
นวัตกรรมแบบสองแขนกล
ถูกพัฒนาให้มีความยืดหยุ่น คล่องตัว
มีความสามารถในการรับรู้ สามารถหยิบจับสิ่งของ
หรือชิ้นงานได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
รวมถึงถูกออกแบบให้ทำงานร่วมกับมนุษย์ได้
โดยเน้นถึงความปลอดภัยในการทำงานร่วมกัน
Alex
นวัตกรรมหุ่นยนต์อัจฉริยะโดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
สามารถจดจำใบหน้าโต้ตอบ
สนทนากับลูกค้า
พร้อมให้ข้อมูลสินค้าและบริการกับลูกค้าได้
ซึ่งในปัจจุบันหุ่นยนต์ Alex
ได้เข้ามาทำงานร่วมกับพนักงานใน AIS SHOP ในสาขาต่างๆ แล้ว
เพื่อช่วยยกระดับการให้บริการ และสร้างประสบการณ์ดิจิทัลให้ลูกค้า
IRB-120
จัดแสดงขีดความสามารถของหุ่นยนต์แขนกล
ที่สามารถควบคุมการทำงานระยะไกลผ่านเครือข่าย
ซึ่งจะช่วยให้มนุษย์สะดวกสบายยิ่งขึ้น และไม่จำเป็นต้องลงไปในพื้นที่เสี่ยง
โดยในครั้งนี้เป็นการสาธิตผ่านการเล่นเกมหยิบกล่องนำโชค
โดยผู้เล่นจะสวมแว่น VR และใช้ Joy
ควบคุมการทำงานของหุ่นยนต์
เพื่อหยิบกล่องนำโชค ลุ้นรับของรางวัล
F. อื่นๆ
·
Smart
Glass แว่นตาอัจฉริยะ
ที่สามารถจดจำข้อมูลที่บันทึกไว้ในพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลบน Cloud
ไม่ว่าจะเป็น ใบหน้า, ทะเบียนรถ แว่นตาสามารถแจ้งได้ทันทีเมื่อเจอใบหน้า
หรือทะเบียนรถที่บันทึกข้อมูลไว้ในระบบ
ในประเทศจีนมีการใช้แว่นตาอัจฉริยะดังกล่าว เพื่อระบุใบหน้าหรือทะเบียนรถ
ที่มีข้อมูลเชื่อมโยงกับประวัติอาชญากรรม และตรวจสอบทะเบียนรถปลอม
·
Cloud
VR Go Kart
การจัดแสดงศักยภาพของ 5G ที่สามารถนำมาใช้กับ Cloud
VR
ทำให้เกิดมิติใหม่ของการเล่นเกม MX (Mixed
Virtual Reality)
ที่ผู้ใช้งานได้ประสบการณ์การขับรถ Go Kart บนโลกเสมือนจริง
สามารถจัดแสดงขึ้นจอแสดงผลอย่าง Real Time
โดยไม่จำเป็นต้องมีการเชื่อมต่อกับสายเคเบิลใดๆ
เนื่องจากศักยภาพของ 5G บนพื้นที่ Cloud ทำให้เล่นเกมสนุกตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น
2. CORPORATE AND IoT ZONE
A. Smart
Airport
โชว์นวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลที่นำมาใช้ยกระดับการให้บริการ
ของสนามบินได้จริงแล้ว
เพื่อก้าวสู่การเป็นสนามบินอัจฉริยะ เช่น
VDO Analysis Solution
ยกระดับความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานในสนามบิน
ด้วยระบบ Facial Recognition
แจ้งเตือนทันทีเมื่อตรวจพบบุคคลต้องสงสัย
และระบบ Unattended Object Detection
ตรวจสอบวัตถุต่างๆ ในสนามบินและแจ้งเตือนเมื่อพบสิ่งผิดปกติ
Utapao Mobile App
VDO Analysis Solution
ยกระดับความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานในสนามบิน
ด้วยระบบ Facial Recognition
แจ้งเตือนทันทีเมื่อตรวจพบบุคคลต้องสงสัย
และระบบ Unattended Object Detection
ตรวจสอบวัตถุต่างๆ ในสนามบินและแจ้งเตือนเมื่อพบสิ่งผิดปกติ
Utapao Mobile App
แอปพลิเคชันสำหรับผู้เดินทางผ่านสนามบินอู่ตะเภา
โดยจะแสดงข้อมูลด้านการบินและสนามบินแบบครบครันในแอปฯ เดียว
เช่น Flight Info
เมนูแสดงข้อมูลตารางการบิน
ทั้งเที่ยวบินภายในประเทศและเที่ยวบินต่างประเทศ,
My
Flight เมนูที่แสดงข้อมูลการบินของผู้โดยสาร
พร้อมแสดงการแจ้งเตือนเวลาที่เหลือก่อน
Boarding
และจะเปลี่ยนสีที่แสดงในกรณี Final Call พร้อมแสดงแถบข้อความ
Tap here for free Wifi@U-Tapao
เมื่อคลิกที่แถบจะเปิด Pop up ให้เชื่อมต่อ Wifi เป็นต้น
B. Smart
Community
นำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชน เช่น
·
Intelligent
farm (iFarm)
ระบบฟาร์มอัจฉริยะ
ที่ผสานเทคโนโลยีของ AIS
กับความรู้ของเกษตรกรที่เชี่ยวชาญ
เพื่อพัฒนาเครื่องมือช่วยในการควบคุมดูแลกระบวนการเพาะปลูก
ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
โดยระบบมีฟังก์ชันสนับสนุน เช่น ระบบสั่งงานเปิด-ปิด อุปกรณ์ระยะไกล,
ระบบวัดสภาพแวดล้อมเพาะปลูก, ระบบการเก็บข้อมูล
และแสดงผลเพื่อนำมาวิเคราะห์ และปรับปรุงกระบวนเพาะปลูก เป็นต้น
ควบคุมง่ายบนมือถือที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
·
Vending
Machine
ตู้จำหน่ายสินค้าผลผลิตจากการเกษตรอัตโนมัติ
เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าเกษตรรูปแบบใหม่ที่สะดวกและประหยัดพื้นที่
โดยการนำเทคโนโลยี IoT มาบริหารจัดการตู้
ตั้งแต่ดูจำนวนสต๊อกสินค้า ตรวจสอบปัญหาการใช้งาน
ตลอดจนรายงานการขายสินค้า ได้แบบ
Real-time
ทั้งนี้ ยังเชื่อมต่อกับ gateway
เพื่อเพิ่มช่องทางและอำนวยความสะดวกในการชำระเงิน
·
Washing
Machine
นำนวัตกรรม IoT มาติดตั้งในเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ
เพื่อเชื่อมโยงข้อมูล ผ่าน IoT Platform
เพื่อให้เจ้าของกิจการสามารถตรวจสอบสถานะการทำงาน
ปริมาณเหรียญในเครื่องและจัดเก็บเหรียญได้ในเวลาที่เหมาะสม
และสามารถเชื่อมต่อกับ mobile
wallet gateway
เพื่อเพิ่มช่องทางและอำนวยความสะดวกในการการชำระเงิน
C. Smart
Living
โชว์นวัตกรรมโซลูชันที่คิดค้นมาเพื่อยกระดับการใช้ชีวิต
ในการอยู่อาศัยภายในบ้านที่ดียิ่งกว่า
·
Home
automation & Home security
ควบคุมระบบต่างๆ
ภายในบ้านได้ทุกที่ทุกเวลา
ผ่านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย
ที่ช่วยดูแลคนในบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
·
Smart
Hygienic
โซลูชันที่จะช่วยดูแลคุณภาพอากาศภายในบ้าน
ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับทุกคน
ในครอบครัว
พร้อมควบคุมการระบายอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ
·
Family
care (Human Tracking)
ทำงานบนนวัตกรรมเครือข่าย AIS NB-IoT
แสดงตำแหน่งของสมาชิกในครอบครัวบนแอปฯ
มือถือ เพื่อช่วยดูแลบุตรหลานของท่านไม่ให้คลาดสายตา
พร้อมปุ่ม SOS ที่ใช้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ
เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน เป็นต้น
D. Smart
Wellness
โชว์นวัตกรรมเทคโนโลยีที่นำมาใช้
เพื่อการดูแลสุขภาพของคนยุคดิจิทัล เช่น
·
Vital
Sign
อุปกรณ์ที่ช่วยตรวจสอบค่าต่างๆ
ทางการแพทย์ได้จากที่บ้าน
และส่งไปยังโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตวจสอบได้ตลอดเวลา
เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ ค่าความดัน ค่าน้ำตาลในเลือด
เป็นต้น
·
Fall
Detection
นวัตกรรมการตรวจจับการล้มด้วยกล้องและระบบอัจฉริยะ
ที่มาพร้อมด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI)
เพื่อแจ้งเตือนไปยังผู้ดูแลได้แบบเรียลไทม์
·
Samitivej
Mobile Health
เปลี่ยนบริการด้านสุขภาพด้วยนวัตกรรมผ่านมือถือ
ตอบโจทย์ผู้รับบริการทั้งผู้ป่วยและญาติ
เช่น แอปพลิเคชัน Samitivej Plus, OR Tracking System (Samitivej PACE)
ระบบติดตามสถานะการผ่าตัดผ่านโทรศัพท์มือถือ,
IPD Tracking System
รู้ขั้นตอนการรักษาและวางแผนการรับบริการผู้ป่วยในแบบ on demand
และ Line @samitivej
ที่มี Chat Bot คอยตอบคำถามสุขภาพ
·
Smart
Pharmacy
นวัตกรรมของการรับ-จ่ายยาผ่านตู้จ่ายยาอัจฉริยะ
ซึ่งสามารถระบุตัวตนได้อย่างสะดวก
รวดเร็ว แม่นยำ และปลอดภัย
พร้อมระบบแนะนำการใช้ยาโดยเภสัชกรวิชาชีพแบบออนไลน์
E. AIAP-IoT Community for Thais
พบกับโชว์เคสจากโครงการ AIS IoT Alliance Program
ที่เอไอเอสจัดขึ้นเพื่อสร้าง
IoT Ecosystem
ในการผลักดันให้เกิดการใช้งาน IoT Technology
ในการผลักดันให้เกิดการใช้งาน IoT Technology
และเตรียมพร้อมให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล เช่น
·
Venus
supply
บริษัทตัวเเทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
นำเข้าสินค้าและจัดจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
บอร์ดทดลองหลากหลายแบรนด์
เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ภายในประเทศ
พร้อมให้บริการคอร์สอบรมด้าน Embedded
System
ที่ครบวงจรทั้งเรื่อง Internet of Things ที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน
และคอร์สอื่นๆ อีกมากมาย
·
Maker
Asia
บริษัทให้บริการฝึกอบรมความรู้ด้าน Electronic ,
Embedded system & IoT เผยแพร่ข้อมูล
ความรู้ต่างๆ เพื่อประโยชน์ของเมกเกอร์
รวมถึงเป็นผู้ให้บริการ Solution provider
ตั้งแต่ Hardware
จนถึง Cloud ในการให้บริการด้าน IoT ต่างๆ
·
Smartsense
Industrial Design
บริษัทที่เน้นออกแบบ วิจัยและพัฒนา IoT Solutions
ให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมและโรงงาน
ที่ต้องการปรับปรุงกระบวนการผลิต
รวมไปถึงการดูแลสุขอนามัยและความปลอดภัย
ในโรงงาน ด้วยเทคโนโลยี IoT และ Data Science
·
Jarton
ผู้ผลิตและส่งออกอุปกรณ์ดิจิตอล
และอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ครบวงจร
ภายใต้แบรนด์ "JARTON"
โดยใช้ระบบเทคโนโลยีที่ดีที่สุดจากทั่วโลกทั้งอิตาลี
ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น
บริษัทให้บริการสินค้า รองรับลูกค้าทุกกลุ่มทั้งเจ้าของร้าน
เจ้าของโครงการ ผู้รับเหมา วิศวกร สถาปนิก
ทั้งในประเทศไทย และอีกกว่า 17 ประเทศทั่วโลก
·
Cirbox
บริษัทผู้นำธุรกิจด้านเครื่องหยอดเหรียญและเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ
ที่นำแพลตฟอร์ม IoT มาเชื่อมต่อกับระบบ
VMS
(Vending Management Systems)
เพื่อช่วยในการบริหารจัดการธุรกิจให้ง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
และยังมีการพัฒนานวัตกรรมการชำระสินค้า
จากระบบหยอดเหรียญ ให้กลายเป็น Online
Payment
เพื่อเพิ่มความสะดวก และรวดเร็วในการให้บริการ
โดยในงานมีการนำเครื่องจำหน่ายกาแฟอัติโนมัติมาแสดง
ซึ่งสามารถแสดงให้เห็นถึงศักยภาพ
การใช้งานเทคโนโลยีด้าน IoT ได้อย่างแท้จริง
·
Agcura
บริษัทภายใต้ SCG Brand ซึ่งคิดค้นและนำเอาเทคโนโลยีด้าน
Sensor
เข้ามาผสมผสานกับความรู้ทางด้านการเกษตรเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ
ให้กับเกษตรกร ทำให้เกษตรกรไทยสามารถทำการเกษตรได้แม่นยำสูง
ซึ่งเป็นกลยุทธ์ในการทำการเกษตร ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เพิ่มปริมาณและคุณภาพของผลผลิต
และช่วยประหยัดต้นทุน
ซึ่งเกษตรกรสามารถปรับการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด
ให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของพื้นที่มากที่สุด
รวมไปถึงเรื่องการดูแลจัดการพื้นที่ทางการเกษตร
อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
·
Progressive
Solution
หนึ่งในบริษัทกลุ่ม Startup ที่มีความเชี่ยวชาญ
ด้านการควบคุมสภาพอากาศในฟาร์มปศุสัตว์แบบเปิด
โดยใช้ระบบ IoT ในการเพิ่มประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน
โดยสามารถลดค่า ไฟฟ้าในฟาร์มของเกษตรกร
ได้มากกว่า 40%
·
Logisense
บริษัทผู้ให้บริการ IoT สำหรับงาน Logistic
ที่สะดวก รวดเร็ว และง่ายต่อการใช้งาน
เหมาะกับการใช้งานในโรงงาน หรือ
คลังสินค้าต่างๆ
3. E-SPORTS ZONE
โชว์ศักยภาพของเครือข่ายที่ดีที่สุด (The Best Network)
ที่ทำให้เกิดประสบการณ์ เล่นเกมที่ดีที่สุด
ด้วยการสร้าง Ecosystem
ที่ผสานความร่วมมือของหลายฝ่ายเข้าด้วยกัน
เช่น Game Publisher, Product และ Service ของ AIS
ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายคุณภาพ,Device
เพื่อการเล่นเกมที่ดีที่สุด
หรือซิมที่ตอบรับ Lifestyle วัยทีน
และการจัด Tournament
ให้ผู้เล่นได้ปลดปล่อยและพัฒนาศักยภาพ
เพื่อก้าวสู่การเป็นเกมเมอร์อาชีพในอนาคต
โชว์ศักยภาพของเครือข่ายที่ดีที่สุด (The Best Network)
ที่ทำให้เกิดประสบการณ์ เล่นเกมที่ดีที่สุด
ด้วยการสร้าง Ecosystem
ที่ผสานความร่วมมือของหลายฝ่ายเข้าด้วยกัน
เช่น Game Publisher, Product และ Service ของ AIS
ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายคุณภาพ,Device
เพื่อการเล่นเกมที่ดีที่สุด
หรือซิมที่ตอบรับ Lifestyle วัยทีน
และการจัด Tournament
ให้ผู้เล่นได้ปลดปล่อยและพัฒนาศักยภาพ
เพื่อก้าวสู่การเป็นเกมเมอร์อาชีพในอนาคต
A. LIVE Tournament:
The Best Network for gaming experience
โชว์การแข่งขันเกมกันแบบสดๆ กับเกมยอดฮิตอย่าง
PUBG PC , PUBG Mobile และ Dota2
บนเครือข่ายที่ดีที่สุด
AIS NEXT G และ AIS Fibre
พร้อมชมแมตช์การแข่งขันนัดพิเศษ
จากศิลปินและแชมป์ E-Sports ตัวจริง
โชว์การแข่งขันเกมกันแบบสดๆ กับเกมยอดฮิตอย่าง
PUBG PC , PUBG Mobile และ Dota2
บนเครือข่ายที่ดีที่สุด
AIS NEXT G และ AIS Fibre
พร้อมชมแมตช์การแข่งขันนัดพิเศษ
จากศิลปินและแชมป์ E-Sports ตัวจริง
B. Game: PUBG
จัดแสดงโชว์เคสจาก Game Publisher
โดย AIS ร่วมเป็นเอ็กซ์คลูซีฟ
พาร์ทเนอร์ กับ PUBG Mobile
พาร์ทเนอร์ กับ PUBG Mobile
ในการจัดทัวร์นาเม้นท์การแข่งขันตลอดปี
2019
และมีไอเทมพิเศษในเกมส์
เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การเล่นเกมของเหล่าเกมเมอร์
C. AIS Product
and Service
Fibre:
The Best Experience Boardband Network for Home & Family
Fibre:
The Best Experience Boardband Network for Home & Family
โชว์แนวคิดการออกแบบแพ็กเกจพิเศษจาก
AIS Fibre
เพื่อคอเกมเมอร์โดยเฉพาะ ซึ่งใช้งานสปีดอินเทอร์เน็ตที่แตกต่าง
จากสปีดอินเทอร์เน็ตสำหรับลูกค้าทั่วไป
โดยแสดงการจำลองการทำงานของระบบอินเทอร์เน็ต
ที่มีการแยกท่อรองรับการใช้งาน
ทั้งในส่วนของการใช้งานทั่วไป
เช่น ดูหนัง เล่นเน็ต ส่งไฟล์ขนาดใหญ่
เปรียบเทียบกับการใช้อินเทอร์เน็ตในการเล่นเกมส์
เพื่อให้เห็นศักยภาพการให้บริการอินเทอร์เน็ต
ที่พร้อมรองรับการใช้งานในทุกรูปแบบอย่างเต็มประสิทธิภาพ
ไม่สะดุด ไม่กระตุก
อีกต่อไป
·
ZEED: The Best Experience on Mobile for Teen Life
พบกับ AIS ZEED ซิมมือถือพร้อมแพ็กเกจ
ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ในด้านดิจิทัลของวัยรุ่น
ยุคปัจจุบัน
และสนับสนุนวัยรุ่นไทย
ให้เข้าถึงประสบการณ์ด้าน E-Sports
ได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น
-
AIS
ZEED: Brand Conceptual Installation
นำเสนอ DNA ที่จะเป็นแบรนด์
ในการเติมเต็มประสบการณ์ที่ดีที่สุดบนโลกดิจิทัลให้กับวัยรุ่น
ด้วยการสร้าง Game Culture ผ่านมือถือ
-
AIS
ZEED: Product Demonstration
นำเสนอการเล่นเกม PUBG Mobile บนมือถือ
ซึ่งจะช่วยให้วัยรุ่นไทยสามารถเข้าถึงประสบการณ์ E-Sports
ได้แพร่หลายมากขึ้น พร้อมสนุกได้มากขึ้น
กับแพ็กเกจ AIS ZEED ที่จะพร้อมให้เล่นเกม
ได้ไม่อั้น ไม่เสียค่าเน็ต รวมถึงมอบความบันเทิงต่างๆ
ให้วัยรุ่นได้เต็มที่
ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง
และเล่นโซเชียล
ฟรีไม่เสียค่าเน็ตอีกด้วย
·
Device: The Best gaming phone
สัมผัสมือถือที่รองรับการเล่นเกมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
บนเครือข่ายที่ดีที่สุด เอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะ AIS เท่านั้น
พร้อมให้เหล่าเกมเมอร์ ได้สนุกกับการเล่นเกมบนมือถือ
ที่ลื่นไหล ไม่มีสะดุด
อาทิ ASUS
ROG PHONE , Razer Phone 2
4. Cyber Wellness and Online Safety Zone
A. Network Educator
A. Network Educator
·
DQ
Intelligence
เตรียมความพร้อมและสร้างรากฐานในการใช้อินเทอร์เน็ต
ตั้งแต่เด็กด้วยชุดการเรียนรู้
360 องศา “DQ Intelligence”
ภายใต้ความร่วมมือของ AIS และ DQ Institute
รวบรวมสาระสำคัญ เพื่อพัฒนาทักษะและความฉลาดด้านดิจิทัลให้กับเด็กๆ
วัย 8-12 ปี ใน 8 ด้าน ได้แก่
อัตลักษณ์ (Digital Citizen Identity),
ยับยั้งชั่งใจ (Screen Time Management),
เมื่อถูกรังแกออนไลน์ (Cyberbullying Management),
ใจเขา-ใจเรา (Digital Empathy),
ท่องเน็ตอย่างปลอดภัย (Cyber Security Management),
คิดเป็น (Critical Thinking),
รู้ถึงผลที่จะตามมา (Digital Footprints)
และ
รู้สิทธิและความเป็นส่วนตัว (Privacy Management)
พัฒนาโดยทีมงานนักวิชาการจาก
Nanyang Technological University ประเทศสิงคโปร์
ซึ่งได้รับความเชื่อถือและถูกนำไปใช้สอนเยาวชนในประเทศต่างๆ
กว่า 30 ประเทศทั่วโลก และนี่คือการเปลี่ยนแปลงใหม่
เพราะการมี IQ และ EQ คงไม่เพียงพออีกต่อไป
แต่เด็กจะต้องมี DQ เพื่อพร้อมรับมือกับยุคดิจิทัลอย่างชาญฉลาด
B. Network
Protector
·
AIS
Secure Net
ระบบช่วยกรองการใช้งานอินเทอร์เน็ต
เพื่อเข้ามาตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้า
ให้มีความมั่นใจและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งแอปพลิเคชั่นใดๆ
ช่วยกรอง URL หรือ Website ที่ไม่เหมาะสม (Web
Filtering)
รวมถึงป้องกันไวรัสและมัลแวร์จากการใช้งาน URL
หรือแอปพลิเคชันที่เป็นอันตราย พร้อมระบบแจ้งเตือน
และบล็อกเมื่อระบบพบว่าลูกค้ากำลังกดใช้งาน
URL
หรือ website ดังกล่าว
โดยระบบจะส่งรีพอร์สของลิงค์หรือ URL ที่ถูกบล็อก
แสดงแก่ลูกค้าเป็นรายสัปดาห์หรือรายเดือน
เพื่อให้ลูกค้าสามารถ customized การกรองเว็บไซต์ได้เองในอนาคต
นอกจากนี้
ยังสามารถควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของบุตรหลานได้
โดยการผูกความสัมพันธ์ด้วยเบอร์
(MSISDN)
เพื่อกำหนดปริมาณและช่วงเวลาการใช้งานได้
·
E-Waste
AIS ตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์
(E-Waste)
อย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาด้านชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม
ซึ่งจะส่งผลเสียในระยะยาว
เราจึงสร้างองค์ความรู้และรวบรวม E-Waste ร่วมกับพันธมิตร
เพื่อนำเข้าสู่การกำจัดอย่างถูกวิธีและยั่งยืน
โดยพัฒนา E-Waste Smart Bin ถังขยะอัจฉริยะที่ติดตั้งอุปกรณ์ IoT
ให้สามารถจำแนกขยะอิเล็กทรอนิกส์ออกจากขยะธรรมดาได้
พร้อมส่งข้อมูลจำนวนขยะอิเล็คทรอนิคส์ที่รวบรวมได้
ขึ้นเว็บไซต์ www.ewastethailand.com
ผ่าน cloud
network และคำนวณค่า CO2 ที่ลดลง
ได้จากขยะอิเล็คทรอนิคส์ ที่เข้าสู่กระบวนการจัดการอย่างถูกวิธี
เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นของทุกคนและลดปริมาณขยะ
อิเล็กทรอนิกส์ตกค้างในประเทศไทย
---------------------------------------------------------------------
➧ ชมภาพบรรยากาศงานเพิ่มเติมได้ที่: